
เพิ่มแรงดึงดูดพนักงานที่มีคุณค่าขององค์กร ให้อยู่กับกิจการของเราไปนานแสนนาน ด้วยสวัสดิการ ประกันกลุ่ม…
การประกันกลุ่ม เพื่อเป็นสวัสดิการพนักงาน ตั้งแต่ 11 คน ขึ้นไป (แผนประกันสำเร็จรูป) ที่มอบความคุ้มครองในรูปแบบของการประกันชีวิต ประกันอุบัติเหตุ ประกันสุขภาพ ที่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล ทั้งผู้ป่วยใน(IPD) ผู้ป่วยนอก(OPD) การรักษาฟัน(ทันตกรรม) เงินชดเชยกรณีโรคร้ายแรง ทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิงถาวร การสูญเสียอวัยวะ ที่มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบตามความต้องการของคุณ และยังสามารถนำเบี้ยประกันไปใช้เป็นค่าใข้จ่ายของกิจการ ตามข้อหารือของกรมสรรพากร เลขที่กค 0811(กม)/795 และ เลขที่กค 0706/397 ได้อีกด้วย
ผลประโยชน์และความคุ้มครองในรูปแบบของประกันกลุ่มที่หลากหลายที่ท่านสามารถเลือกได้ดังต่อไปนี้
- ความคุ้มครองด้านการประกันชีวิต ประกันอุบัติเหตุ และทุพพลภาพ (หลัก) แบบกลุ่ม
- ความคุ้มครองด้านการประกันสุขภาพผู้ป่วยใน(IPD) แบบกลุ่ม (เลือกซื้อเพิ่มเติมได้)
- ความคุ้มครองด้านการประกันสุขภาพผู้ป่วยนอก(OPD) แบบกลุ่ม (เลือกซื้อเพิ่มเติมได้)
- ความคุ้มครองการรักษาฟัน (ทันตกรรม) แบบกลุ่ม (เลือกซื้อเพิ่มเติมได้)
- ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอกต่อเนื่องจากผู้ป่วยใน แบบกลุ่ม (เลือกซื้อเพิ่มเติมได้)
- ความคุ้มครองค่าตรวจทางห้องทดลองปฏิบัติการ ในฐานะผู้ป่วยนอก แบบกลุ่ม (เลือกซื้อเพิ่มเติมได้)
- ความคุ้มครองด้านการการประกันโรคร้ายแรง แบบกลุ่ม(เลือกซื้อเพิ่มเติมได้)
ความคุ้มครอง
ให้ความคุ้มครองตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งใน และนอกเวลาทำงาน
รายละเอียดความคุ้มครอง
ชดเชยกรณีเสียชีวิต |
การประกันชีวิตกลุ่ม
ระยะเวลาความคุ้มครอง 1 ปี ระยะเวลาชำระเบี้ย 1 ปี
ความคุ้มครอง
ให้ความคุ้มครองตลอด 24 ชั่วโมงทั่วโลก ทุกสถานที่ทั้งในเวลาทำงานและนอกเวลาทำงาน เมื่อผู้เอาประกันภัยเจ็บป่วย หรือบาดเจ็บจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต โดยบริษัทฯ จะจ่ายจำนวนเงินเอาประกันภัยตามที่กำหนดไว้ในตารางผลประโยชน์การประกันภัยให้กับผู้รับ ประโยชน์การประกันภัยกลุ่มสวัสดิการพนักงาน โดยความคุ้มครองจะครอบคลุมถึง
- การฆ่าตัวตายภายใน 1 ปี นับตั้งแต่วันเข้าร่วมการประกันภัยของพนักงานแต่ละคน
- ผู้รับประโยชน์ฆ่าผู้เอาประกันภัยตายโดยเจตนา
การประกันอุบัติเหตุกลุ่ม
ระยะเวลาความคุ้มครอง 1 ปี ระยะเวลาชำระเบี้ย 1 ปี
ให้ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิต หรือสูญเสียอวัยวะและสายตาเนื่องจากอุบัติเหตุ ภายใน 180 วัน นับตั้งแต่วันที่เกิดอุบัติเหตุหรือการบาดเจ็บที่ได้รับทำให้ผู้เอาประกันภัยต้องรักษาตัวติดต่อกันในฐานะผู้ป่วยในของโรงพยาบาลและเสียชีวิต เพราะการบาดเจ็บนั้น บริษัทฯ จะจ่ายผลประโยชน์ ตามตารางรายการทดแทนที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันชีวิตกลุ่ม
ตัวอย่างข้อยกเว้นสำหรับการประกันชีวิตกลุ่ม
การประกันทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิงกลุ่ม
ระยะเวลาความคุ้มครอง 1 ปี ระยะเวลาชำระเบี้ย 1 ปี
ความคุ้มครอง
ให้ความคุ้มครองทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง ที่เป็นอย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 180 วัน อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการเจ็บป่วยที่ได้รับเชื้อโรคหรือเกิดการผิดปกติภายในร่างกาย หรือการบาดเจ็บทางร่างกายอันเป็นผลโดยตรงจากอุบัติเหตุ รวมทั้งการสูญเสียมือ เท้าสายตา อย่างใดอย่างหนึ่งรวมกัน 2 ข้าง บริษัทฯ จะจ่ายเงินทดแทนให้ครั้งเดียว 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
ตัวอย่างข้อยกเว้นสำหรับการประกันชีวิตกลุ่ม
- ขณะที่ผู้เอาประกันภัยกำลังขึ้นหรือกำลังลง หรือ เป็นผู้ขับขี่หรือ ขณะโดยสารอยู่ในอากาศยานที่ไม่ได้จดทะเบียนเพื่อบรรทุกผู้โดยสาร และ ไม่ได้ประกอบการโดยสายการบินพาณิชย์
- การทำร้ายร่างกายตนเอง หรือ พยายามกระทำเช่นว่านั้นในขณะที่รู้สึกผิดชอบ หรือวิกลจริต หรือไม่ก็ตาม
ระยะเวลาความคุ้มครอง 1 ปี ระยะเวลาชำระเบี้ย 1 ปี
ความคุ้มครอง
ให้ความคุ้มครอง ในกรณีที่ผู้เอาประกันภัย จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาการบาดเจ็บ หรือ เจ็บป่วย ตามความจำเป็นทางการแพทย์ในฐานะผู้ป่วยใน ในโรงพยาบาล และ เข้ารับการรักษาตัว เป็นเวลาต่อเนื่องกันไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง
พิเศษ ผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลเพิ่มเติม สำหรับกรณีผู้เอาประกันมีการใช้สิทธิสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลอื่น
เมื่อผู้เอาประกันภัยบาดเจ็บ หรือเจ็บป่วยเป็นเหตุให้ต้องเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลในฐานะผู้ป่วยในตามความจำเป็นทางการแพทย์
- หากผู้เอาประกันภัยได้ใช้สิทธิจากสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลอื่น จนเต็มจำนวนตามสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลอื่นก่อนแล้ว และไม่ได้มีการเรียกร้องผลประโยชน์ใดๆ จากบริษัทฯ บริษัทฯ จะจ่ายผลประโยชน์ให้เท่ากับเงินผลประโยชน์ค่าห้อง และค่าอาหารต่อวัน ตามจำนวนที่ผู้เอาประกันภัยรักษาตัวในโรงพยาบาลในฐานะผู้ป่วยใน หรือ
- หากผู้เอาประกันภัยได้ใช้สิทธิจากสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลอื่นจนเต็มจำนวนตามสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลอื่นก่อนแล้ว และมีการเรียกร้องผลประโยชน์จากบริษัทฯ เฉพาะในส่วนของค่าห้องและค่าอาหารเท่านั้น แต่ยังไม่เต็มจำนวน บริษัทฯ จะจ่ายผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลรายวันเพิ่มเติมให้เท่ากับจำนวนวันที่รักษาตัวในโรงพยาบาล คูณด้วยเงินผลประโยชน์ค่าห้อง และค่าอาหารต่อวัน และหักด้วยเงินผลประโยชน์ค่าห้อง และค่าอาหาร ที่บริษัทฯ ได้จ่ายไปตามสัญญาเพิ่มเติมคุ้มครองสุขภาพกลุ่ม ทั้งนี้บริษัทฯ จะจ่ายผลประโยชน์ให้ไม่เกินจำนวนวันสูงสุดของจำนวนเงินผลประโยชน์ค่าห้อง และค่าอาหาร ต่อการเข้ารักษาในโรงพยาบาลครั้งใดครั้งหนึ่ง
ตัวอย่างข้อยกเว้นสำหรับการประกันสุขภาพแบบกลุ่ม
- ค่าดูแลโดยพยาบาลพิเศษ การตรวจสุขภาพทั่วไป การพักฟื้นการรักษาอาการอ่อนเพลีย หรือการรักษาโดยวิธีให้พักอยู่เฉยๆการให้บริการอำนวยความสะดวกที่มิใช่เป็นการรักษาอาการบาดเจ็บ หรือเจ็บป่วย เช่น การใช้โทรศัพท์ โทรทัศน์ วิทยุ และอื่นๆ ที่คล้ายคลึงกัน
- การเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บที่เป็นอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งผู้เอาประกันภัยได้รับการรักษาการวินิจฉัยโรค การปรึกษา หรือจ่ายยาให้ในระหว่างเวลา 90 วัน ก่อนวันที่สัญญาเพิ่มเติมนี้เริ่มมีผลบังคับเว้น แต่ผู้เอาประกันภัยผู้นั้นได้เอาประกันภัยไว้ตามสัญญาเพิ่มเติมนี้ เป็นเวลา 12 เดือนติดต่อกัน
ผู้ป่วยนอก |
1. การประกันสุขภาพกลุ่มแบบ ผู้ป่วยนอก (OPD)
ระยะเวลาความคุ้มครอง 1 ปี ระยะเวลาชำระเบี้ย 1 ปี
ความคุ้มครอง
หากผู้เอาประกันภัยบาดเจ็บ หรือ เจ็บป่วยจนเป็นเหตุให้ต้องเข้ารับการรักษา ในแผนกผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาลหรือคลินิก บริษัทฯ จะจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้สำหรับ การตรวจรักษาไม่เกิน 1 ครั้งต่อวันตามจำนวนเงินที่ผู้เอาประกันภัยจ่ายจริง แต่ทั้งนี้ไม่เกินจำนวนเงินผลประโยชน์ต่อครั้งตามที่ระบุไว้ในตารางผลประโยชน์และไม่เกิน 30 ครั้งต่อปี
2. ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก ต่อเนื่องจากการรักษาผู้ป่วยใน
ระยะเวลาความคุ้มครอง 1 ปี ระยะเวลาชำระเบี้ย 1 ปี
ความคุ้มครอง
ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอกต่อเนื่องจากผู้ป่วยใน ภายใน 90 วัน นับแต่วันออกจากโรงพยาบาล (โดยตรวจไม่เกิน 1 ครั้งต่อวัน และไม่เกิน 5 ครั้งต่อการเข้ารักษาในโรงพยาบาลครั้งใดครั้งหนึ่ง) สูงสุดต่อครั้ง
3. การตรวจทางห้องทดลองปฏิบัติการ ในฐานะผู้ป่วยนอก
ระยะเวลาความคุ้มครอง 1 ปี ระยะเวลาชำระเบี้ย 1 ปี
ความคุ้มครอง
การตรวจทางห้องทดลองปฏิบัติการในฐานะผู้ป่วยนอก (การตรวจวินิจฉัยโรคด้วยรังสีเอ็กซ์ การตรวจหัวใจด้วยคลื่นไฟฟ้า หรือการตรวจในห้องปฏิบัติการ เพื่อประกอบการรักษาแบบผู้ป่วยนอกตามคำแนะนำของแพทย์) สูงสุดต่อปีกรมธรรม์
4. การรักษาทันตกรรม (การรักษาฟัน)
ระยะเวลาความคุ้มครอง 1 ปี ระยะเวลาชำระเบี้ย 1 ปี
ความคุ้มครอง ค่ารักษาทันตกรรม (สูงสุดต่อปีกรมธรรม์)
- การถอนฟัน อุดฟัน ขูดหินปูน
- การรักษาฟัน และการรักษาประสาทรากฟัน
- การตรวจช่องปาก หรือการตรวจด้วยรังสัเอ๊กซ์
![]() |
![]() |
![]() |
- หากได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น 1 ใน 47 โรคร้าย ได้รับเงินก้อน 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย (สามารถดูรายละเอียดได้ด้านล่าง)
- รับเงินก้อน 10% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย กรณีเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบที่รักษาด้วยการสวนหลอดเลือดหัวใจ
- หากผู้เอาประกันภัยเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงมากกว่า 1 โรค บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์เพียงโรคใดโรคหนึ่งเท่านั้น
- บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์ตามข้อ 2 ข้างต้นเพียง 1 ครั้งตลอดอายุกรมธรรม์ที่สัญญาเพิ่มเติมนี้แนบอยู่ แม้ว่าจะมีการต่ออายุสัญญา
- เมื่อมีการจ่ายเงินผลประโยชน์ตามข้อ 1 แล้ว สัญญาเพิ่มเติมนี้จะสิ้นผลบังคับทันที
- โรคมะเร็งระยะลุกลาม
- กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเลือด
- การผ่าตัดเส้นเลือดเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ
- การผ่าตัดลิ้นหัวใจโดยวิธีการเปิดหัวใจ
- โรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน
- เนื้องอกในสมอง ชนิดที่ไม่ใช่มะเร็ง
- การผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะหรือปลูกถ่ายไขกระดูก
- โรคโลหิตจางจากไขกระดูกไม่สร้างเม็ดโลหิต
- โรคหลอดเลือดสมองที่ต้องได้รับการผ่าตัดลอกหลอดเลือดแดงคาโรติด
- โรคไตวายเรื้อรัง
- โรคหลอดลมปอดอุดกั้นเรื้อรัง
- แผลไหม้ฉกรรจ์
- การฉีกขาดของรากประสาทต้นแขน
- โรคของเซลล์ประสาทควบคุมการเคลื่อนไหว
- ภาวะอะแพลลิก
- การสูญเสียการได้ยิน
- การสูญเสียความสามารถในการพูด
- โรคกล้ามเนื้อเสื่อม
- โรคผนังหลอดเลือดแดงใหญ่
- ตับวาย
- โรคหลอดเลือดสมองโป่งพองที่ต้องรักษาโดยการผ่าตัด
- โรคเยื่อหุ้มสมองและไขสันหลังอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย
- โรคพาร์กินสัน
- โรคโปลิโอ
- ไตอักเสบลูปูส จากโรคซิสเต็มมิค ลูปูส อิริเธมาโตซูส
- การผ่าตัดเส้นเลือดแดงใหญ่เอออร์ต้า
- สมองอักเสบจากเชื้อไวรัส
- โรคสมองเสื่อมชนิดอัลไซเมอร์
- โรคไวรัสตับอักเสบขั้นรุนแรง
- การเจ็บป่วยระยะสุดท้าย
- ภาวะโคม่า
- การบาดเจ็บที่ศีรษะอย่างรุนแรง
- โรคระบบประสาทมัลติเพิล สะเคลอโรสิส
- อัมพาตของกล้ามเนื้อแขนหรือขา ข้อ
- การผ่าตัดกระดูกสันหลังคดที่ไม่ทราบสาเหตุ
- โรคปอดระยะสุดท้าย
- โรคกล้ามเนื้อหัวใจ
- ภาวะตับอ่อนอักเสบที่กลับเป็นซ้ำและเรื้อรัง
- โรคเท้าช้าง
- การสูญเสียการดำรงชีพอย่างอิสระ
- โรคถุงน้ำในไต
- โรคเนื้อเยื่อพังผืดอักเสบติดเชื้อและเป็นเนื้อตาย
- โรคแรงดันในหลอดเลือดแดงปอดสูงแบบปฐมภูมิ
- โรคหนังแข็งชนิดลุกลาม
- ภาวะข้ออักเสบรูมาตอยด์ชนิดรุนแรง
- โรคลำไส้อักเสบเป็นแผลรุนแรง
- ตาบอด
- โรคหลอดเลือดหัวใจตีบที่รักษาด้วยการสวนหลอดเลือดหัวใจ
- ผู้ขอเอาประกันภัยสามารถซื้อสัญญาเพิ่มเติมนี้ได้ ก็ต่อเมื่อมีการซื้อแบบประกันชีวิตกลุ่มก่อน
- หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และคุณสมบัติของผู้มีสิทธิเข้าร่วมประกันภัยในองค์กร เป็นไปตามแบบประกันชีวิตกลุ่มของแต่ละองค์กรที่เลือกซื้อ อย่างไรก็ตาม อายุของผู้ขอเอาประกันภัยสูงสุดไม่เกิน 65 ปี
- ผู้ขอเอาประกันภัยจะต้องกรอกข้อมูลตามที่กำหนดในใบคำขอเอาประกันภัยกลุ่ม ซึ่งรวมทั้งข้อมูลสุขภาพ และ/หรือตรวจสุขภาพตามที่บริษัทกำหนด เว้นแต่เป็นกรณีที่จำนวนเงินเอาประกันภัยอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถเอาประกันภัยโดยไม่ต้องแสดงหลักฐาน
- การฆ่าตัวตายหรือการทำร้ายร่างกายตนเองหรือพยายามกระทำเช่นว่านั้นในขณะที่รู้สึกผิดชอบ หรือวิกลจริตหรือไม่ก็ตาม
- ใช้หรือเคยใช้ยาเสพติด หรือสารเสพติด หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ หรือใช้ยาในทางที่ผิด (Substance Abuse) ในขณะที่รู้สึกผิดชอบหรือวิกลจริตหรือไม่ก็ตาม
- สูดดม กิน ดื่ม ฉีด หรือนำสารมีพิษเข้าร่างกายไม่ว่าด้วยวิธีใด ในขณะที่รู้สึกผิดชอบ หรือวิกลจริตหรือไม่ก็ตาม
- ผู้เอาประกันภัยปฏิเสธไม่ยอมรับการรักษาแนะนำหรือปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
- การติดเชื้อไวรัสภูมิคุ้มกันบกพร่อง (HIV Positive) หรือภาวะของโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง (AIDS) ของผู้เอาประกันภัย
- การเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงที่เกิดขึ้นก่อนวันที่สัญญาเพิ่มเติมเริ่มมีผลบังคับ
ตัวอย่างข้อยกเว้นสำหรับการประกันสุขภาพแบบกลุ่ม
- ค่าดูแลโดยพยาบาลพิเศษ การตรวจสุขภาพทั่วไป การพักฟื้นการรักษาอาการอ่อนเพลีย หรือการรักษาโดยวิธีให้พักอยู่เฉยๆการให้บริการอำนวยความสะดวกที่มิใช่เป็นการรักษาอาการบาดเจ็บ หรือเจ็บป่วย เช่น การใช้โทรศัพท์ โทรทัศน์ วิทยุ และอื่นๆ ที่คล้ายคลึงกัน
- การเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บที่เป็นอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งผู้เอาประกันภัยได้รับการรักษาการวินิจฉัยโรค การปรึกษา หรือจ่ายยาให้ในระหว่างเวลา 90 วัน ก่อนวันที่สัญญาเพิ่มเติมนี้เริ่มมีผลบังคับเว้น แต่ผู้เอาประกันภัยผู้นั้นได้เอาประกันภัยไว้ตามสัญญาเพิ่มเติมนี้ เป็นเวลา 12 เดือนติดต่อกัน
สนใจแผนนี้
คุณสมบัติ และเงื่อนไขการรับประกัน
คุณสมบัติขององค์กรที่จะขอเอาประกันภัยกลุ่ม
- ธุรกิจที่ประกอบด้วยจำนวนพนักงานประจำตั้งแต่ 11 – 100 คน
- เป็นองค์กร หรือหน่วยงานที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล
- องค์กรจะต้องมีสถานที่ประกอบการในประเทศไทยและพนักงานจะต้องปฎิบัติงาน ประจำในประเทศไทย
- เป็นองค์กรที่ขอทำประกันภัยให้แก่ลูกจ้าง / พนักงานประจำในองค์กร
- กรรมการหรือเจ้าของกิจการ หรือ ที่ปรึกษาบริษัทที่ไม่ได้ทำงาน เต็มเวลาไม่สามารถเข้าร่วมการประกันภัยได้
- สำหรับองค์กรที่ประกอบธุรกิจที่มีความเสี่ยงไม่เกินประเภทธุรกิจขั้น 3
- ผลประโยชน์ความคุ้มครองนี้ ไม่สามารถใช้ได้สำหรับกลุ่มสมาชิกสหกรณ์ สหภาพแรงงาน สมาคม สโมสร ชมรมเจ้าหนี้และลูกหนี้ หรือ การรวมตัวในรูปแบบสมาชิก หรือผู้ที่เดินทางไปทำงานต่างประเทศ
คุณสมบัติของพนักงานที่จะขอทำประกันภัยกลุ่ม
- พนักงานที่มีอายุระหว่าง 15 – 65 ปี
- จำนวนผู้ขอเอาประกันภัยขั้นต่ำ 11 คน ณ วันเริ่มสัญญาครั้งแรก ไม่รวมคู่สมรสและบุตร
- พนักงานที่มีสิทธิ์เข้าร่วมแผนความคุ้มครองจะต้องมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง และไม่อยู่ระหว่างการเจ็บป่วย หรือบาดเจ็บ หรือรักษาตัว หรือติดตามผลการรักษา
- เป็นพนักงานประจำที่ปฎิบัติงานอย่างแท้จริงตามหน้าที่เต็มเวลาโดยปกติ ไม่รวมถึงลูกจ้างชั่วคราว
- อายุเฉลี่ยของพนักงานทั้งกลุ่มไม่รวมคู่สมรสและบุตรที่ขอเอาประกันภัยจะต้องไม่เกิน 40 ปี
คุณสมบัติของคู่สมรส และบุตรของพนักงานที่จะขอทำประกันภัยกลุ่ม
- กรณีองค์กรต้องการขอทำประกันภัยให้คู่สมรส และบุตรของพนักงานจะขอทำประกันภัยได้ ต่อเมื่อองค์กรได้ขอทำประกันภัยให้พนักงานคู่สมรสและบุตรทุกคน
- อัตราเบี้ยประกันภัยของคู่สมรสและบุตรแต่ละคนเฉพาะการประกันชีวิตการประกันอุบัติเหตุ การประกันทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิงจะคิดเท่ากับอัตราเบี้ยประกันภัยของพนักงาน
- อัตราเบี้ยประกันภัยของคู่สมรสและบุตรแต่ละคนเฉพาะการประกันสุขภาพ จะเป็นอัตราที่กำหนดไว้ในตารางเบี้ยประกันภัยสำหรับคู่สมรสและบุตรของพนักงาน
- คู่สมรสจะต้องจดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมาย มีอายุไม่เกิน65 ปี และต้องไม่ได้ทำงานในองค์กรเดียวกับพนักงาน
- บุตรจะต้องเป็นบุตรที่ถูกต้องตามกฎหมายของพนักงานที่มีอายุไม่เกิน 18 ปี และยังไม่ได้สมรส หรืออายุไม่เกิน 25 ปี โดยกำลังศึกษาเต็มเวลา และยังไม่ได้สมรส และยังไม่ได้ทำงาน
หลักเกณฑ์การแบ่งแผนประกันภัย
- จะต้องกำหนด โดยมีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจน ดังนี้
- กำหนดแผนประกันภัยแผนเดียวให้แก่พนักงานเท่ากันทุกคน
- กำหนดแผนประกันภัยตามตำแหน่งงานของพนักงาน
- กำหนดแผนประกันภัยตามช่วงเงินเดือนของพนักงาน
- กำหนดแผนประกันภัยตามช่วงอายุของพนักงาน
การชำระเบี้ยประกันภัย และจำนวนผู้เข้าร่วมการประกันภัยและค่าตรวจสุขภาพ
- กรณีองค์กรเป็นผู้ชำระเบี้ยประกันทั้งหมดพนักงานจะต้องสมัครเอาประกันภัย 100 % ของจำนวนผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมการประกันภัย
- กรณีองค์กรและพนักงานร่วมกันชำระเบี้ยประกันภัยหรือพนักงาน ชำระเบี้ยประกันภัยเองทั้งหมด พนักงานจะต้องสมัครเอาประกันภัยไม่ต่ำกว่า 75 % ของจำนวนผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมการประกันภัย และในกรณีนี้ไม่สามารถสมัครเอา ประกันภัยให้แก่คู่สมรสและบุตรของพนักงาน
- เบี้ยประกันภัยชำระรายปีเท่านั้นและเบี้ยประกันภัยรวมต่อกรมธรรม์ ณ วันที่เริ่มสัญญา ไม่ต่ำกว่า 4,000 บาท
- กรณีหากมีการตรวจสุขภาพเพื่อสมัครเอาประกันภัยผู้ขอเอาประกันภัยจะต้องรับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายเอง
- บริษัท ฯ สงวนสิทธิ์ที่จะพิจารณาเปลี่ยนแปลงอัตราเบี้ยประกันภัยใหม่ ตามประเภทธุรกิจที่แท้จริงของผู้ขอเอาประกันภัย
การชำระเบี้ยประกันภัย และจำนวนผู้เข้าร่วมการประกันภัยและค่าตรวจสุขภาพ
- กรอกใบคำขอเอาประกันภัยกลุ่มสำหรับผู้ถือกรมธรรม์ลงนามโดย กรรมการผู้มีอำนาจของนายจ้าง หรือ ผู้รับมอบอำนาจพร้อมประทับตราองค์กร (ต้องนำส่งหนังสือมอบอำนาจและหนังสือรับรองบริษัท)
- กรอกใบคำขอเอาประกันภัยกลุ่ม สำหรับผู้ขอเอาประกันภัยสำหรับพนักงาน / คู่สมรส / บุตร (ถ้าสมัคร) โดยระบุรายละเอียดให้ครบถ้วนพร้อมลงนาม และ วันที่ขอเอาประกันภัย
- กรอกแบบฟอร์มการขอใช้บัตรประกันสุขภาพ ลงนามโดยกรรมการผู้มีอำนาจของนายจ้าง หรือ ผู้รับมอบอำนาจพร้อมประทับตราองค์กร
- ส่งบัญชีรายชื่อพนักงาน / คู่สมรส / บุตร วันเดือนปีเกิดตำแหน่งงาน วันเดือนปีที่เริ่มทำงาน แผนการประกันภัย ข้อมูลที่ใช้แบ่งแผนประกันภัยของพนักงาน / คู่สมรส / บุตร แต่ละคน
- ชำระเบี้ยประกันภัยก่อนวันเริ่มสัญญา
- นำส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องในการรับประกันภัย ให้ครบถ้วนก่อนวันเริ่มสัญญา
- ล่วงหน้า 7 วันเพื่อบริษัทฯ จะได้พิจารณารับประกันภัย
- วันเริ่มคุ้มครอง จะเป็นวันที่บริษัทฯ ได้รับเอกสารครบถ้วนและผ่านการพิจารณารับประกันภัยเรียบร้อยแล้ว
การชำระเบี้ยประกันภัย และจำนวนผู้เข้าร่วมการประกันภัยและค่าตรวจสุขภาพ
- ใบคำขอเอาประกันภัยกลุ่มสำหรับผู้ถือกรมธรรม์
- ใบคำขอเอาประกันภัยกลุ่มสำหรับผู้ขอเอาประกันภัยสำหรับพนักงาน คู่สมรสและบุตร (ถ้าสมัคร)
- ใบสรุปรายละเอียดข้อมูลของพนักงาน คู่สมรส และบุตร
- แบบฟอร์มการขอใช้บัตรประกันสุขภาพ
- สำเนาเอกสารการจดทะเบียนการค้านิติบุคคล
- จำนวนเงินค่าเบี้ยประกันภัย
แยกตามขั้นความเสี่ยง
ประเภทธุรกิจขั้น 1 คือ ลักษณะการประกอบธุรกิจที่มีความเสี่ยงภัยในระดับต่ำ หรือลักษณะงานที่ประกอบอาชีพภายในสำนักงานงานด้านการบริหาร การจัดการ และรวมถึงลักษณะการทำงานฝีมือที่ไม่ใช้เครื่องจักร
ประเภทธุรกิจขั้น 2 คือลักษณะการประกอบธุรกิจที่มีความเสี่ยงภัยในระดับปานกลาง หรือลักษณะงานที่ประกอบอาชีพภายนอกสำนักงานเป็นครั้งคราว งานด้านการขาย หรือลักษณะงานด้านอุตสาหกรรมขนาดเบา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาชีพเฉพาะหรือกึ่งอาชีพเฉพาะ
ประเภทธุรกิจขั้น 3 คือ ลักษณะการประกอบธุรกิจที่มีความเสี่ยงภัยในระดับสูง หรือลักษณะงานที่ประกอบอาชีพภายนอกสำนักงานเป็นประจำหรือลักษณะงานด้านช่าง หรือกระบวนการผลิต
ธุรกิจบริการประเภทธุรกิจที่ไม่สามารถขายตามข้อเสนอนี้ได้ คือ
ลักษณะการประกอบธุรกิจที่มีความเสี่ยงภัยในระดับสูงเป็นพิเศษ ซึ่งไม่สามารถจัดเข้าประเภทธุรกิจขั้น 1 ขั้น 2 ขั้น 3 ได้ เช่น อุตสาหกรรมขนาดหนัก อุตสาหกรรมเหมืองแร่ กรรมกร การก่อสร้างอาคารสูง สะพาน เขื่อน อ่างเก็บน้ำ อุโมงค์ ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ที่เป็นอันตราย ธุรกิจเกี่ยวข้องกับสารเคมีอันตราย พนักงานรักษาความปลอดภัยสายการบิน (นักบิน ลูกเรือ) อุตสาหกรรมเหล็ก ไฟฟ้า น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ วัตถุไวไฟ วัตถุระเบิด โรงโม่หิน อุตสาหกรรมเดินเรือต่อเรือ โรงกลึง รับซื้อขายของเก่า ทหาร ตำรวจ ดับเพลิง ธุรกิจที่พนักงานใช้รถจักรยานยนต์เกินร้อยละสิบ คนขับรถ (รถบรรทุกรถทัวร์ แทรกเตอร์ รถน้ำมัน รถเครน) เป็นต้น
ขอขอบคุณลูกค้าผู้มีอุปการะคุณทุกๆ ท่าน ที่มอบความไว้วางใจ
ให้โอกาส ผม ทีมงาน และทางบริษัทฯ ได้มีโอกาสดูแล....



ผมต้องขออภัยลูกค้าผู้มอบความไว้วางใจอีกเป็นจำนวนมาก ที่ยังมิได้นำรูปมาแสดงความขอบคุณ ณ. ที่นี้นะครับ ผมจะขออนุญาตนำรูปมาใส่เพิ่มเติมในโอกาสต่อๆ ไปนะครับ และต้องขอขอบคุณทุกกำลังใจ และความไว้วางใจที่มอบให้ผม และทีมงานครับ
“ด้วยรัก ห่วงใย และคิดถึงเสมอ ขอบคุณมากๆ ครับ”





























เช็คเงินครบสัญญา และเช็คสินไหมฯ
แทนคำขอบคุณ ที่ให้โอกาสผม และทีมงาน ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเก็บออม
และได้มีโอกาสดูแล ตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา... ขอบคุณมากๆ ครับ...











